Articles By Election

ยุทธการปราศรัยหาเสียงแบบกองโจรกับชัยชนะของ สมศักดิ์ คุณเงิน ในการเลือกตั้งซ่อม ที่ขอนแก่น เขต 7

ณพจักร สนธิเณร
4 กุมภาพันธ์ 2563


ว่าด้วยกลยุทธ์การหาเสียงในการเลือกตั้งซ่อมที่จังหวัดขอนแก่น แม้ผู้สมัครจากทั้ง 2 พรรคใหญ่จะคุ้นเคยกับยุทธวิธีการหาเสียงในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเป็นอย่างดี แต่ด้วยปัจจัยจากพรรคต้นสังกัดนำไปสู่การเลือกยุทธวิธีที่ต่างกัน 2 ยุทธวิธีที่กล่าวคือ การปราศรัยหาเสียงแบบ “กลยุทธทิ้งบอมบ์” กับ “การรบแบบกองโจร”

การปราศรัยหาเสียง กลยุทธทิ้งบอมบ์ คือ การทำเวทีหาเสียงขนาดใหญ่ที่มีจำนวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาฟังปราศรัย จำนวนตั้งแต่ร้อยคน จนถึงมากกว่าหมื่นคน บนเวทีมีนักการเมืองที่มีประสบการณ์ช่ำชองจำนวนมากช่วยกันโหมโรงก่อนที่จะให้ผู้สมัครขึ้นมาปราศรัยแนะนำตัว และปิดท้ายด้วยแกนนำคนสำคัญของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าจะเป็น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ สุทิน คลังแสง ประยุทธ์ สิริพาณิชย์ หรืออดิศร เพียงเกษ การใช้กลยุทธ์เวทีหาเสียงแบบทิ้งบอมบ์นี้สะท้อนถึงกลไกการเมืองในพื้นที่ที่ยังคงอยู่ภายใต้เงาอันใหญ่โตของแกนนำสำคัญของพรรคเพื่อไทย และกลุ่มนปช. ที่กล่าวมาข้างต้น ในขณะที่ผู้สมัครแบบเขตเลือกตั้งมือใหม่อย่าง ธนิก มาสีพิทักษ์ แทบจะหมดโอกาสได้ส่องแสงในฐานะตัวเอกของงาน ซึ่งนี่ยังไม่ได้พูดถึงบารมีไพศาลที่ครอบคลุมพรรคเพื่อไทย และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของ “พ่อใหญ่ทักษิณ” คนที่บรรดาสมาชิกพรรคเรียกว่า “นาย” แม้จุดแข็งของกลยุทธ์ทิ้งบอมบ์จะเป็นการกระตุ้นเร้าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งให้มีความรู้สึกร่วม ไปกับมวลชนจำนวนมากภายในเวทีที่ครึกครื้น สนุกสนาน และยังเป็นการแสดงสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างพรรคเพื่อไทยกับชาวขอนแก่น ที่แสดงออกด้วยการแห่แหนของคนกว่าหมื่นคนที่มารอฟังปราศรัยและรอได้พบกับแกนนำคนสำคัญของพรรค ข้อเสียของกลยุทธ์นี้คือจำเป็นต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาลในการขนย้ายคน ค่าเดินทาง ค่าเช่ารถ ค่าน้ำมัน และการจัดการเวทีเพื่อรองรับคนจำนวนมาก พร้อมๆ กับการลดบทบาทของผู้สมัครเมื่ออยู่ท่ามกลางบรรดาขาใหญ่ในพรรค

อีกฝั่งของผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ การปราศรัยหาเสียงการรบแบบกองโจร คือ การทำเวทีปราศรัยเล็กๆ ตามชุมชน หรืออาจจะ 1-3 ชุมชนที่อยู่ติดกัน ค่อยๆ ทำการหาเสียงรุกคืบไปในพื้นที่ ด้วยรูปแบบนี้ไม่ค่อยเป็นทางการมากนัก โดยมีผู้ปราศรัยหลักคือตัวผู้สมัคร เหตุผลสำคัญที่ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐเลือกลยุทธ์นี้ คือ แรงหนุนต่างๆ ที่มาจากพรรคต้นสังกัดผู้สมัครนั้นอ่อนแอในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทยตลอดมา หรือแม้แต่แบรนด์ของพลังประชารัฐ ที่ค่อนข้างจะเป็นการรับรู้ในเชิงลบ กระทั่งแม้แต่การสนับสนุนจากบุคคลสำคัญในพรรคหรือรัฐบาลที่ไม่เข้มข้นเหมือนฝั่งพรรคเพื่อไทย อย่างไรก็ตามปฏิบัติการที่สร้างความเหนื่อยล้าแก่ตัวผู้สมัครนี้กลับช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี เนื่องจากการหาเสียงการรบแบบกองโจรช่วยให้ผู้สมัครมีโอกาสได้สัมผัสใกล้ชิดกับชุมชน ตอกย้ำให้เห็นศักยภาพของการเป็นผู้แทนชาวขอนแก่น เขต 7 ที่มีอยู่ภายในตัว สมศักดิ์ คุณเงิน ให้โดดเด่น สมกับเป็นนักการเมืองในพื้นที่มากว่า 30 ปี จนอ้างได้ว่าตนรู้จักเขต 7 ราวกับว่าเป็นฝ่ามือของตนเอง ข้อดีของกลยุทธ์นี้ คือการเน้นความใกล้ชิด การพูดจาปราศรัยที่เป็นกันเอง และการจัดสรรเวลาได้ตามเท่าที่ต้องการ เช่นเดียวกับการสร้างภาพลักษณ์ของความเป็นคนใน และคนที่มีความสามารถ พร้อมจะเป็นผู้แทนของพื้นที่ ข้อเสียคือภาระงานที่จะตกอยู่กับทีมหาเสียงและตัวผู้สมัคร อีกทั้งยังทำให้ต้องพึ่งพากลไกของหัวคะแนนในพื้นที่เพื่อให้ผู้สมัครสามารถเข้าถึงชุมชนได้อย่างแท้จริง

นอกจากกลยุทธ์การหาเสียง เทคนิคการปราศรัยของผู้สมัครจากทั้ง 2 พรรค การโน้มน้าวให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตนเป็นผู้แทนในเขต ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่นำไปสู่การแพ้ชนะการเลือกตั้ง ในฐานะผู้สมัครจากพรรครัฐบาล แนวทางการปราศรัยของ สมศักดิ์ คุณเงิน เป็นการนำจุดแข็งของตัวผู้สมัครและศักยภาพการพลักดันนโยบายให้เป็นจริง โดยการเสนอนโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของคนในพื้นที่ ได้แก่นโยบายแก้ปัญหาภัยแล้ง นโยบายลดต้นทุนการเกษตรและช่วยเหลือในกรณีพืชผลเสียหายจากภัยธรรมชาติ (เกษตรประชารัฐ) การสร้างถนนและสาธารณูปโภคพื้นฐาน และนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพื่อเกษตรกรและผู้ที่มีรายได้น้อย ในทางตรงกันข้ามนักปราศรัยจากพรรคเพื่อไทยได้เน้นใช้เทคนิคการปราศรัยโจมตีรัฐบาลรวมถึงนโยบายของรัฐบาลเสียเป็นส่วนใหญ่ ในด้านหนึ่งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่คนในพื้นที่ว่าภายในระยะเวลาไม่นานพรรคเพื่อไทยจะสามารถพลิกกลับมาเป็นรัฐบาลได้เช่นเคย อีกด้านหนึ่งกลับเป็นการยอมรับถึงผลสัมฤทธิ์ของนโยบายรัฐบาล ดังที่จะเห็นการใช้คำสำคัญในการปราศรัยว่าเป็นการตามทวงหนี้/ทวงสัญญาของรัฐบาลมาให้พี่น้องประชาชน และอีกประเด็นที่น่าสนใจผู้ปราศรัยของพรรคเพื่อไทยพยายามจะเสนอนโยบายของพ่อใหญ่ทักษิณตั้งแต่สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะเป็น นโยบายกองทุนหมู่บ้าน นโยบายแท็บเบล็ตเพื่อเด็กนักเรียน นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค ฯลฯ ในลักษณะยาครอบจักรวาลที่ยังไม่หมดอายุเสียที

ทั้งหมดนี้จากที่ปรากฏผลแพ้ชนะการเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมา สามารถสะท้อนถึงพัฒนาการของคนในพื้นที่ได้หรือไม่ว่าการเมือง-การเลือกตั้งที่สร้างสรรค์ คือการแข่งขันกันด้วยนโยบายที่เหมาะสมกับชีวิตความเป็นอยู่ในพื้นที่ และศักยภาพในการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ มากกว่าการกล่าวหาทางการเมือง หรือการปราศรัยโจมตีบุคคล หรือกลุ่มบุคคลที่มีความคิดความเชื่อและอุดมการณ์ทางการเมืองต่างจากตน เช่นนี้แล้วชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมจังหวัดของแก่น เขต 7 ของ สมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ ที่ได้รับการยอมรับและความเชื่อถืออย่างท่วมท้นจากผู้มีสิทธิ์ที่ลงคะแนนให้พรรคเพื่อไทย อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงพัฒนาการของการเมืองที่กำลังก้าวข้ามวังวนความขัดแย้งทางการเมืองและผลประโยชน์ แต่เป็นการเมืองที่ว่าด้วยการบริหารบ้านเมืองของตนให้พัฒนาไปในทางที่เป็นประโยชน์กับคนในพื้นที่

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s

%d bloggers like this: