
GTA ต้องการอะไร (จากสังคม)?
GTA V นั้นเป็นที่รู้จักในสังคมนักเล่นเกมว่าเป็นเกมเกี่ยวกับอาชญากรที่หลุดโลก คือเป็นเกมที่มีสามารถทำความรุนแรงกับใครก็ได้ ด้วยการที่เกมออกแบบมาให้เราเล่นเป็นตัวละครในมุมมองบุคคลที่สาม ที่อยู่ในโลกเปิด (open world) ที่ไม่จำเป็นต้องเดินไปตามทางที่เกมกำหนดให้เราเดินไป ผู้เล่นจึงสามารถมีอิสระเท่าที่เกมจะมอบให้ได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเลือกจะฆ่าใครก็ได้ ไม่ว่าจะด้วยมือเปล่า หรืออาวุธที่มีอยู่ สามารถขับรถเล่นผาดโผนได้ เรียกได้ว่าเป็นเกมที่ทำเรื่องระบายอารมณ์กับสิ่งที่อยากทำในชีวิตจริง จึงเป็นเกมที่ถูกผลักให้เป็นสาเหตุของการเกิดความรุนแรงอยู่บ่อย ๆ แต่สิ่งที่สังคมไม่ค่อยได้คำนึงถึงคือ การที่ GTA V เป็นเกมที่สอดแทรกความเป็นวัฒนธรรมต่อต้านที่เป็นรูปเป็นร่างภายใต้การดำเนินเนื้อเรื่องของเกม โดยวิธีการล้อเลียนหรือประชดประชันดังที่ได้กล่าวไป
โดยเนื้อเรื่องของเกมได้เริ่มต้นในเมืองที่ในเกมเรียกว่า North Yankton ซึ่งแฟนเกมสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเมืองในรัฐ North Dakota[1] ซึ่งอยู่ในเขต Midwest ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งในจักรวาลเกม GTA จะไม่นิยมใช้ชื่อจริง ซึ่งเป็นฉากที่ย้อนเวลาไปในปี ค.ศ. 2004 ขณะที่ Michael, Trevor และ Brad เพื่อนสามคนที่ทำอาชีพเป็นโจรปล้นกำลังทำภารกิจปล้นธนาคารกันอยู่ ซึ่งเมื่อปล้นกันเสร็จแล้ว ทั้งสามก็ได้มีการต่อสู้กับตำรวจหลายคันรถ จนฝ่าออกมาได้ ปรากฏว่า เมื่อถึงจุดหมายที่จะเป็นจุดหลบหนี Brad ได้ถูกซุ่มยิงจาก FIB (แน่นอนว่าผวนมากจาก FBI) Dave Norton จากนั้นก็ยิง Michael ต่อ Trevor จึงหนีรอดไปได้คนเดียว จากนั้น Trevor ก็ได้แอบมาดูงานฝังศพของ Michael แบบลับ ๆ ทำให้ Trevor เชื่อว่า Michael นั้น ได้ตายไปแล้วจริง ๆ ซึ่งจริง ๆ เป็นแผนที่ Michael ได้ทำการตกลงไว้กับทาง FIB ว่าเขาจะยอมให้ FIB หยุดแก๊งค์ปล้นของเขาได้ แลกกับการให้เขาได้ไปใช้ชีวิตแบบเกษียณอยู่ในเมืองสวรรค์ที่แดดออกเกือบทั้งปี อากาศดี มีเงิน มีบ้านหรู อยู่สบาย ส่วน Brad นั้น ได้ตายไปแล้ว แต่ Trevor นั้นยังคิดว่า Brad ยังมีชีวิตอยู่ เนื่องจาก Dave เจ้าหน้าที่ FIB ได้ส่งข้อความหลอกว่า Brad ยังติดคุกอยู่ เพื่อไม่ให้ Trevor นั้นคุ้มคลั่งมากจนเกินไป

ภาพจาก (https://gta.fandom.com/wiki/Trevor_Philips)
แต่ทว่า Michael นั้นไม่ได้ตายจริง ๆ แต่เข้าร่วมโปรแกรมคุ้มครองพยานกับ FIB โดยเปลี่ยนนามสกุล และปล่อยให้ Trevor หนีไป เพราะเกรงว่าคนบุคลิกหัวร้อนอย่าง Trevor จะต้องรับไม่ได้ และเผลอ ๆ อาจจะฆ่าเขาด้วย Michael จึงย้ายมา “เกษียณ” ตัวเองในเมือง Los Santos อันเป็นเมืองจำลองของ Los Angeles ในมลรัฐ San Andreas ที่จำลองมากจาก California ซึ่งเป็นมลรัฐที่โด่งดัง ทั้งในแง่ของวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีภูมิประเทศที่โดดเด่น มีภูเขา มีชายหาด และไม่ได้มีเมืองที่มีประชากรหนาแน่น ทำให้ความเป็นอยู่ไม่แออัด อากาศกำลังดี ไม่ร้อนไม่หนาว อีกทั้งยังเป็นสถานที่ตั้งของสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ของบริษัทดังอย่าง Warner Bros., Paramount หรือ Sony Pictures ทำให้มีคนจากทุกมุมโลกมาอาศัยในวัยเกษียณช่วงบั้นปลายชีวิต อีกด้านหนึ่ง ก็เป็นสถานที่อยู่ของเหล่าชาวแก๊งค์ หรือในชื่อ Gangster ที่เป็นย่านอาชญากรรมที่ร้ายแรง มีการฆาตกรรมและยาเสพติดมากมาย ซึ่งตัวละครหลักในเกมนี้ จะสะท้อนให้เราเห็นถึงด้านต่าง ๆ เหล่านี้ของเมืองทั้งหมด ในตอนเริ่มเกมที่เป็นยุคปัจจุบัน Michael ได้ปรากฎตัวเป็นชายวัยกลางคนที่มีปัญหาในครอบครัว เมียไม่รักแล้วมีชู้ ลูกชายติดเกมส์ ลูกสาวใจแตก เขาเลยต้องมาพบจิตแพทย์ที่คิดค่าเข้าเข้าพบแสนแพง ครั้งหนึ่งก็ไม่ต่ำกว่า $500 หรือประมาณ 15,000 บาทไทย ซึ่งแพทย์ก็ไม่ได้ให้การรักษาบำบัดอะไร เพียงแต่ให้ Michael เล่าเรื่องที่ตนเองอึดอัดใจ และก็หมดเวลา ตรงนี้ก็ต้องการล้อเลียนการแพทย์ของสหรัฐฯ ที่คิดราคาแพง แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับการไม่ได้รักษา เพราะตัว Michael เอง ก็ไม่ได้มีอาการดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย

ภาพจาก (https://gta.fandom.com/wiki/Michael_De_Santa)
ถัดมาเราจะได้พบกับอีกตัวละครหนึ่งคือ Franklin ซึ่งเป็นตัวละครที่มีผิวดำ ซึ่งแน่นอนว่าตามคติของเมือง Los Santos จะต้องเป็นอาชญากร เป็นชาวแก๊งค์ ซึ่งแน่นอนว่าใช่ แต่เรื่องราวที่น่าสนใจคือ Franklin นั้นทำงานเป็นคนยึดรถของโชว์รูมรถแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อลูกค้าจ่ายค่ารถไม่ตรงเวลา หรือผิดสัญญา เจ้าของก็จะส่ง Franklin กับเพื่อนไปยึดรถคืนมา ซึ่งเจ้าของโชว์รูมนั้น เป็นคนอาหรับ ย้ายเข้ามาทำธุรกิจ เมื่อมีคนมาลองรถ แต่ไม่ซื้อ หรือจะต่อรองราคา เขาก็จะบอกว่าลูกค้านั้นไม่ชอบเขาเพราะเป็นคนเหยียดเชื้อชาติ (racist) ซึ่งตรงนี้ก็เป็นการล้อเลียนวัฒนธรรม wokeness ของฝ่ายที่เรียกตัวเองว่าเป็นหัวก้าวหน้าในสหรัฐฯ ที่กล่าวว่าตนเองนั้น “ตื่น” กับปัญหาสังคมที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการมองว่าสังคมโดยรวม (โดยเฉพาะสังคมอเมริกัน) นั้นมีปัญหาและอยุติธรรมอยู่ตลอดเวลา[2] หากเปรียบเทียบกับอุดมการณ์ความถูกต้องทางการเมืองของตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบเสรีนิยม

ภาพจาก (https://gta.fandom.com/wiki/Franklin_Clinton)
แต่แม้ว่ารากฐานทางความคิดทางการเมืองของสหรัฐอเมริกานั้น ก็ได้รับอิทธิพลจากแนวคิดแบบเสรีนิยมมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ด้วยความเป็นเสรีนิยมที่ล้นเกินในปัจจุบัน ทำให้เกิดปัญหาที่ตามมามากมาย หนึ่งในนั้นคือวัฒนธรรมการแบน อาจเรียกว่า ban culture หรือ cancel culture ที่เป็นการรวมกลุ่มกันต่อต้านไม่คบค้าสมาคม หรือไม่สนับสนุนอุดหนุน ซื้อของ จนกระทั่งไม่นับว่าเป็นมนุษย์ กรณีที่ชัดเจนที่สุดคือ การที่หากบุคคลใดไม่ร่วมสนับสนุนกลุ่ม Black Lives Matter ก็จะถูกตีตราว่าเป็นพวกเหยียดผิว ทั้งที่เขาอาจเพียงไม่เห็นด้วยกับวิธีการในการเรียกร้องของกลุ่มเท่านั้น เช่น กรณีของนักฟุตบอลที่ไม่ยอมคุกเข่าตอนเริ่มการแข่งขัน แล้วถูกปลดออกจากทีมทันที[3] หรือกรณีที่การ์ตูนของค่าย Disney อย่าง Peter Pan, Dumbo และ The Aristrocats ได้ถูกถอดออกจาก Disney+ แพล็ตฟอร์มสตรีมมิ่งของ Disney เนื่องจากมีการใช้ตัวละครที่เป็นชนกลุ่มน้อย และมีการเรียกชื่อตัวละครเหล่านั้นในเชิงเหยียดสีผิว[4] หรือการที่ทีมอเมริกันฟุตบอลที่ชื่อว่า “Redskins” ต้องเปลี่ยนชื่อเพราะชื่อมีลักษณะเหยียดชาวพื้นถิ่นอเมริกัน[5] ทั้ง ๆ ที่ชื่อนี้ก็ตั้งมาแต่ก่อนแล้ว แต่วัฒนธรรม woke ที่ได้รับความนิยมจนกลายมาเป็นวัฒนธรรมสมัยนิยมอย่างหนึ่งในสหรัฐฯ ก็ได้อุบัติขึ้นและยังมีลักษณะจู่โจมและจ้องจะแบนในทันที หากองค์กรเหล่านั้นไม่ทำตามที่ตนคิดว่าถูกต้อง เช่น การที่แฟนบอลไม่สนับสนุน โฆษณา สปอนเซอร์ไม่สนับสนุน ก็จะทำให้กิจการของทีมฟุตบอลนั้นไม่สามารถอยู่ต่อไปได้ จึงต้องทำตาม เป็นต้น แล้วนี่คือสิ่งที่เรียกว่าเสรีนิยมหรือ? เกม GTA V พยายามตั้งคำถามกับสิ่งเหล่านี้ โดยการแสดงออกผ่านการล้อเลียน ประชดประชัน เสียดสี เช่น มีบทพูดในตอนหนึ่ง ที่ Trevor พูดกับ Michael ว่า “เรากลับมาแล้วพวก! เราแค่ช่วย Brad ออกมาจากคุก ดูสิ Franklin ทำให้เรามีความหลากหลายทางวัฒนธรรม Lester (มือเทคโนโลยีในการปล้น ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการแฮ็คทำให้การปล้นง่ายขึ้น) ก็จะทำให้เราไฮเทค เราก็จะเป็นเหมือนกับอเมริกายุคใหม่ แล้วเราก็แค่หาเพื่อนที่เป็นเกย์ นี่ไง!” นี่ก็เป็นการเสียดเสียดสีสังคมอเมริกันสมัยใหม่ ที่เน้นอัตลักษณ์ของความหลากหลายทางวัฒนธรรม ที่จะต้องมีบุคคลต่างต่างอัตลักษณ์ทางเชื้อชาติ สีผิว หรือเพศภาวะ เพื่อบ่งบอกว่ากลุ่มของตนนั้น ได้มีการรวมคนกลุ่มต่าง ๆ (inclusive) เข้าไปด้วย เพื่อให้คนทุกกลุ่มอัตลักษณ์ มีบทบาทในการมีส่วนร่วม แต่คำถามในทางกลับกันก็คือ ไม่ว่าจะรวมกลุ่มคนเท่านี้แล้ว แล้วกลุ่มคนอื่น ๆ ล่ะ? หรือว่าคนกลุ่มอัตลักษณ์อื่น ๆ จะถูกละเลยเหมือนเดิม หรือกลุ่มอื่น ๆ ไม่มีความสำคัญเพียงพอในการนำเสนอกลุ่มนั้น ๆ ? อย่างนี้แล้ว จะเป็นไปได้อย่างไรที่จะให้พื้นที่กับกลุ่มอัตลักษณ์ต่าง ๆ ด้วยความเท่าเทียม นี่จึงเป็นปัญหาของการเมืองอัตลักษณ์ (Identity Politics) ที่มุ้งเน้นการต่อสู้เพื่ออัตลักษณ์ของตนเอง ซึ่งเป็นการต่อสู้ที่เป็นกระแสหลักในสังคมทั่วโลกอยู่ในตอนนี้ เช่น กลุ่ม LGBTQIA++ หรือกลุ่มคนดำ เป็นต้น การเมืองของอัตลักษณ์ที่มุ่งเน้นแต่การผลักดันให้กลุ่มอัตลักษณ์ของตนเองมีบทบาทมากที่สุด จึงหนีไม่พ้นการแบ่งแยกกลุ่มของตนเองออกจากลุ่มอื่น ๆ จึงส่งผลให้เกิดการมองว่ากลุ่มของตัวเองเป็นกลุ่มที่พิเศษกว่ากลุ่มอื่น ๆ (exceptional group) ความปรารถนาที่จะทำให้กลุ่มของตนอยู่เหนือกลุ่มอื่น ๆ ย่อมทำให้เกิดการยอมอยู่ใต้การครอบงำของคนกลุ่มอื่นอยู่เสมอ ดังที่นักปรัชญาชาวเยอรมันอย่าง Friedrich Nietszche ได้กล่าวไว้ว่า ทุกความปรารถนา (will) ที่จะมีเสรีภาพ (freedom) นั้น ย่อมก่อให้เกิดการยอมศิโรราบ (obeying) ต่อผู้ที่ปรารถนาอยู่เสมอ[6] ในแง่นี้ การปรารถนาและการมีอยู่ของเสรีภาพของบุคคลหนึ่ง ก็จะนำมาซึ่งการถูกละเมิดหรือละเลยของเสรีภาพของอีกบุคคลหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งในสังคมร่วมสมัยในปัจจุบัน มักจะเรียกร้องหาเสรีภาพโดยใช้อัตลักษณ์เป็นเครื่องมือ โดยไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบของเสรีภาพของบุคคลหรือกลุ่มอื่น อันเป็นรากฐานสำคัญของเสรีนิยมตั้งแต่ John Locke หรือ Immanuel Kant เป็นต้นมา ซึ่ง GTA V ก็ได้หยิบยกตรงนี้มาแสดงให้เห็นในรูปของการเสียดสีประชดประชัด
แสดงว่า GTA V เป็นเกมที่มีปัญหากับแนวคิดแบบเสรีนิยม ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว GTA V เป็นเกมที่สนับสนุนอุดมการณ์และแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยมหรือไม่?
ไม่จำเป็นว่าการวิพากษ์วิจารณ์เสรีนิยม จะทำให้ผู้วิพากษ์วิจารณ์ต้องกลายเป็นอนุรักษ์นิยม หรือการวิพากษ์วิจารณ์ทุนนิยมจะทำให้ผู้วิจารณ์กลายเป็นคอมมิวนิสต์ การมองโลกแบบคู่ตรงข้ามจะทำให้เราสับสนกับปัญหานี้ เพราะโลกนั้นไม่ได้เป็นคู่ตรงข้ามเสมอไป การมองโลกแบบคู่ตรงข้าม เช่น ดี-เลว ขาว-ดำ โง่-ฉลาด หรือแม้แต่ ซ้าย-ขวา นั้นเป็นการลดทอนความซับซ้อนของโลกให้เหลืออยู่แค่สองด้าน ซึ่งผลักใสให้บุคคลหรือสิ่งสิ่งหนึ่งต้อง “เลือกข้าง” ไปโดยปริยาย ดังนั้น ในกรณีของ GTA จึงไม่สามารถที่จะจัดประเภทได้ว่าตกลงแล้ว ผู้สร้างต้องการจะอยู่ข้างไหนกันแน่ เพราะประเด็นที่นำเสนอผ่านการประชดประชันหรือเสียดสีนั้น ไม่ได้เลือกข้างว่าจะอยู่ฝ่ายไหน การเสียดสีแค่เพียงแต่ให้นัยยะที่ชัดเจนอยู่อย่างเดียวว่า ไม่ได้อยู่ข้างฝ่ายที่กำลังเสียดสีอยู่ เพราะฉะนั้นในแง่นี้ การเสียดสีประชดประชันในฐานะการต่อต้านวัฒนธรรมสมัยนิยม หรือวัฒนธรรมอะไรก็ตามแต่ จึงไม่ได้เป็นการทำไปเพื่อช่วงชิงอำนาจนำ หรือช่วงชิงความเป็นจ้าวใด ๆ เพราะ เป้าหมายของการเสียดสีประชดประชันนั้นไม่ได้มีความชัดเจนว่าต้องการอะไร ผิดกับการช่วงชิง/แย่งชิงอำนาจนำของปฏิบัติการของวัฒนธรรมสมัยนิยม วัฒนธรรมประชาชน หรือ pop culture ต่าง ๆ นานา ที่ตั้งเป้าหมายคล้ายกับการปฏิวัติ
แน่นอนว่าการต่อต้านนั้นอาจเป็นลักษณะที่สำคัญของเสรีนิยมในช่วงหนึ่ง ที่ต่อสู้กับอำนาจนิยมหรืออนุรักษ์นิยม แต่ในปัจจุบันที่เสรีนิยมกลายมาเป็นอุดมการ์หลักที่ครอบงำโลกไปแล้ว การต่อต้านเสรีนิยมในรูปแบบต่าง ๆ จึงเกิดขึ้นจากผู้คนที่มองว่าเสรีนิยมก็เป็นหนึ่งในความคิดที่มีปัญหา และยังมีลักษณะที่ย้อนแย้งอยู่หลายประการ แม้ว่าจะมีคุณค่าที่สมควรอยู่บ้างก็ตาม ในแง่นี้การเสียดสีประชดประชันเพื่อต่อต้าน จึงไม่ได้เป็นเพียงการเอาตัวเข้ามาอยู่ในขั้วตรงข้ามกับสิ่งที่กำลังเสียดสีอยู่ แต่ในหลายครั้ง ก็กลับกลายเป็นการ “ดึงสติ” และทำให้ “ฉุกคิด” ในเรื่องที่สังคมนั้นกำลังเทความสนใจลงไป จนเป็นเหตุให้เกิดการสถาปนาความถูกต้องขึ้นเป็นบรรทัดฐานหนึ่ง ๆ สิ่งอาจจะไม่สมเหตุสมผล หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า hypocrite หรือหลอกลวง เสแสร้ง เช่น Political Correctness หรือความถูกต้องทางการเมือง วัฒนธรรม wokeness การใช้โซเชี่ยลมีเดีย เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้ GTA V ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น เป็นเกมที่มีเนื้อหารุนแรง ให้อิสระกับผู้เล่นในฐานะที่เกมเป็นโลกเปิด สามารถที่จะเข่นฆ่าใครก็ได้ ใช้อาวุธได้หลากหลายที่เกมกำหนดให้ ตั้งแต่ขวดเบียร์แตก ไปจนถึงเครื่องยิงจรวด RPG ระเบิดรถได้เป็นคัน ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ในชีวิตจริงทำไม่ได้ การที่ตัวละคร Trevor เป็นคนมุทะลุฆ่าคนได้ไม่เลือกหน้า รวมถึงมีฉากที่คุ้ยขยะหาของกิน หรือไปฟื้นอยู่บนดาดฟ้าโดยมือข้างหนึ่งยังถือขวดเบียร์ คนทั่วไปก็คงมองว่าเขาเป็นคนแปลก แต่ในทางกลับกัน ในความแปลกและบ้านั้น มันได้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างที่ออกนอกเหนือขนบของสังคมปกติทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ที่เป็นที่น่าจดจำในเกม ไม่ว่าจะเป็นในเนื้อเรื่องหลักของเกม หรือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแบบสุ่มในระหว่างที่ผู้เล่นเดินทางไปพบเจอในเมือง เช่น เหตุการณ์การแย่งตัวพยานของหน่วย FIB และ IAA ซึ่งเนื้อหาในเกมกล่าวว่า IAA ได้อายัตตัวพยานไว้ โดยแจ้งว่าพยานคนนี้ได้ตายไปแล้ว แต่ FIB ไม่เชื่อ จึงเป็นต้องมีการไปตามดูถึงห้องดับจิต ไปจนถึงการสืบหาตัวพยานและชิงตัวมาสอบสวน เพื่อฆ่าตัดตอน ความขัดแย้งและการแย่งชิงความดีความชอบนั้น ผูกพันกับผลประโยชน์และงบประมาณที่จะได้รับ ไปจนถึงความอยู่รอดของชีวิตเจ้าหน้าที่ หลังจากที่ไปทำงานสกปรกมาแล้ว นี่จึงเป็นการล้อเลียนทฤษฎีสมคบคิดว่าสหรัฐฯ มี deep state ที่เป็นรัฐพันธ์ลึก บริหารโดยหน่วยงานสืบราชการลับ ที่ไม่ได้สนใจหลักสิทธิมนุษยชนที่สหรัฐฯ นำไปตัดสินจัดหมวดหมู่จัดลำดับให้กับประเทศอื่น ยังมีฉากที่พยานคนนั้น ถูกจับขึงกับโต๊ะทำงานแล้วโดนเจ้าหน้าที่ IAA เอาไฟฉายฟาดใส่ฝ่ามือ แล้วร้องว่า “นี่ผมเป็นพลเมืองอเมริกันนะ ผมมีสิทธิ..” ซึ่งพูดยังไม่ทันจบประโยคก่อนที่จะโดนฟาดเข้าอีกครั้งที่ปาก
แล้วเรื่องการแขวะทุนนิยม ทำให้เป็นฝ่ายซ้ายสังคมนิยมหรือเปล่า?
ในบทสนทนาและโฆษณาทั้งในเว็ปไซต์ในเกมและในวิทยุโทศทัศน์ หลายครั้งได้มีการกล่าวถึงทุนนิยมทั้งทางตรงและทางอ้อมอยู่บ่อยครั้ง เช่น ในตอนช่วงแรกของเกม ลูกชายของ Michael ได้ไปซื้อรถที่บริษัทขายรถที่ Franklin ทำงานอยู่ แต่ไม่ได้ส่งค่างวด เจ้าของบริษัทจึงส่ง Franklin มาขโมยรถที่บ้านของ Michael แต่ทว่า Michael รออยู่ในรถ แล้วบังคับให้ Franklin ขับรถชนเข้าไปในบริษัท จึงทำให้ Franklin ตกงาน จึงต้องมาหา Michael ที่สัญญาว่าจะปล่อยเขาไปและถ้ามีปัญหาให้มาหาที่บ้าน Michael จึงสอนว่า ชีวิตเราอาจจะคิดใหญ่โต เป็นนักเลงคุมถิ่น มีอำนาจ มีเงิน รวยมหาศาล แต่อย่าไปสนใจเรื่องเหลวไหลพวกนั้นเลย เพราะโลกนี้มันขับเคลื่อนด้วยทุนนิยม ตั้งใจเรียน แล้วหางานทำ แล้วก็ใช้ชีวิตไป เดี๋ยวก็ตายแล้ว ต่อมาเขาจึงเอา Franklin มาทำงานปล้นด้วย
หรือหากขับรถไปตาม Rockford Hills หรือ Beverly Hills ในความเป็นจริง ที่เป็นแหล่งที่อาศัยของคนรวย ก็จะเจอเหตุการณ์สุ่ม ที่ชายนักกอล์ฟคนหนึ่ง ถูกภรรยาไล่ออกจากบ้าน โดยโยนเสื้อผ้าเขาออกมาจากหน้าต่าง เขาเลือกที่จะเก็บไม้กอล์ฟไว้อย่างเดียว แล้วขอให้ Michael ไปส่งเขาที่สนามกอล์ฟ ระหว่างทางเขาก็ได้บ่นให้ฟังถึงชีวิตคู่ที่ยากลำบาก ซึ่งก็เป็นปกติในสังคมอเมริกันที่มีอัตราการหย่าร้างสูง แล้วได้พูดในตอนหนึ่งว่า ในโลกนี้เงินไม่ได้ทำให้เรามีความสุข แต่การที่ทำให้เรามีเงินมากพอ มันสามารถทำให้เราจ่ายเงินให้จิตแพทย์มาบอกว่าเราไม่มีความสุขได้ ซึ่งเป็นการสะท้อนสังคมอเมริกันที่คนเป็นโรคทางจิตเยอะ และจริง ๆ แล้วการไปบำบัดไม่ได้ช่วยอะไรมากขนาดนั้น เพียงแต่เป็นการตลาดที่หวังกำไรเท่านั้น
หรือหากผู้เล่นได้ท่องไปในเขตทะเลทราย Grand Senora Desert ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของ Los Santos ก็จะพบข้อความล้อเลียน เช่น “America is the land for American” ซึ่งเป็นการล้อเลียนการเหยียดเชื้อชาติของพวกที่ถูดเรียกว่า Rednecks ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียก “ชนชั้นแรงงานผิวขาวที่เป็นพวกปฏิกิริยาทางการเมืองอาศัยอยู่ในเขตชนบท” ซึ่งปฏิกิริยาในที่นี้ก็คงจะหมายถึงปฏิกิริยาต่อเสรีนิยม เสรีนิยมที่ถูกยกให้เป็นอุดมการณ์หลักที่ถูกต้องทางการเมือง จึงถูกท้าทาย แต่กระนั้น เมื่อเดินเข้าไปใกล้กลุ่ม redneck บางคน ก็จะได้ยินคำตะโกนออกมาว่า “แกสนับสนุนรัฐสวัสดิการใช่มั้ย พวกฉันต่อต้านรัฐสวัสดิการ ไอ้พวกสังคมนิยมเฮงซวย! ลูกของพวกฉันไม่ได้ต้องการโรงเรียน ฉันสามารถสั่งสอนลูกฉันเองได้ ลูกฉันก็จะเติบโตเป็นชาวนาชาวไร่ ไม่จำเป็นต้องเข้าไปเรียนในเมือง ถ้าแกเป็นพวกสังคมนิยมก็ไสหัวออกไป ก่อนที่จะโดน!” ก็ไม่รู้ว่านี่คือการเสียดสีฝ่ายไหน แต่ที่แน่ ๆ ก็เป็นการเสียดสีให้เห็นถึงข้อด้อยของทุกฝ่าย
อีกฟังก์ชันหนึ่งในเกมที่ได้มีการออกแบบไว้อย่างตั้งใจ คือ การที่ผู้เล่นสามารถลงทุนในตลาดหุ้นได้ โดยใช้เงินในเกม แต่การลงทุนนั้นก็ไม่ได้เป็นการลงทุนที่อ้างอิงกับกลไกตลาดปกติ แต่ยังมีเนื้อหาในส่วนที่สัมพันธ์กับการฆาตกรรม ที่ฆ่าเพื่อให้ผลประโยชน์จากการลงทุนในหุ้น เช่น ในเนื้อเรื่องหลักของเรื่อง ที่ Michael ต้องการความช่วยเหลือจาก Lester เขาจึงขอให้ Michael ช่วยเขาก่อนเรื่องหนึ่ง โดยให้ Michael ปลอมตัวเป็นโปรแกรมเมอร์ เข้าไปในบริษัท LifeInvader ซึ่งเป็นบริษัททำโซเชี่ยลมีเดีย ซึ่งก็คือ Facebook ที่เป็นสื่อโซเชียลมีเดียในลักษณะที่บุกรุกพื้นที่ส่วนตัวในความเป็นจริงนั่นเอง โดยให้ Michael นั้น เข้าไปแฮ็คระบบของโทรศัพท์มือถือต้นแบบรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า โดยระหว่างทางในห้องประชุม จะได้ยินเสียงของ Jay Norris กำลังนำประชุมอย่างขึงขัง เสียงดุดัน ซึ่งก็น่าจะเป็นการล้อเลียน Mark Zuckerberg, CEO ของ Facebook ที่มีชื่อเสียงด้านความโหดกับพนักงานของเขา จากนั้น Lester ก็ให้ Michael กลับมารอดูการเปิดตัวที่บ้าน ระหว่างทาง Lester ก็บ่นให้ฟังถึงความชั่วร้ายของ Jay ว่าเขาปั่นหัวคนและสังคมอย่างไร ทำให้สังคมอเมริกันเสื่อมโทรมขนาดนี้ และให้ Michael โทรศัพท์เข้าไปตอนที่ Jay กำลังอยู่บนเวที ซึ่งเป็นไฮไลท์ของงาน แต่ปรากฏว่า เมื่อ Michael โทรเข้าไปตอนที่เขาเปิดตัวโทรศัพท์ ที่มีการถ่ายทอดสดเหมือนกับ Steve Jobs กำลังเปิดตัว iPhone ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือต้นแบบเครื่องนั้นก็ระเบิดขึ้น พร้อม ๆ กับหัวของ Jay Norris ที่กำลังยกหูโทรศัพท์ขึ้นรับสาย Michael ตกใจ แต่ Lester ก็บอกว่ามันคือแผนของเขาที่ไปจัดการกับโทรศัพท์เครื่องต้นแบบนั้น เพื่อที่จะส่งผลให้หุ้นของ LifeInvader นั้นตกดิ่งลงเหว ซึ่งมันทำให้เขาได้รับผลประโยชน์จากการลงทุนในตลาดหุ้นของเขานั่นเอง
ซึ่งต่อมาเขาได้เสนองานจ้างฆ่าผู้บริหารของบริษัทต่าง ๆ เพื่อเพิ่มและลดมูลค่าหุ้นในตลาดให้กับ Franklin ด้วย ซึ่งเขาให้ค่าจ้างและแนะนำให้ Franklin ลงทุน จะสามารถทำเงินได้มหาศาล จากความเปลี่ยนแปลงในตลาดหุ้น หลังจากมีการฆ่าผู้บริหารเกิดขึ้น นี่ก็เป็นการควบคุมและหาเงินจากการกำหนดกลไกของตลาดหุ้นบางส่วนเอง ซึ่งในสังคมอเมริกันก็มีทฤษฎีสมคบคิดแนวนี้อยู่มาก
แต่ก็แน่นอนว่ากลไกทุกอย่างย่อมมีข้อผิดพลาดได้ เช่น ในช่วงท้ายของเกม Devin Winston ที่เป็นเจ้าพ่อแห่งการลงทุนในเมือง ทีได้ใช้งานให้ทั้ง Michael, Franklin และ Trevor ไปขโมยรถให้เขา แล้วเขาจะเอาไปขาย แต่สุดท้ายก็บ่ายเบี่ยงไม่จ่ายค่าจ้าง เพราะ Devin เชื่อว่าตนนั้นมีอิทธิพล สามารถคุม FIB IAA ได้ แต่ทั้งสามคน ก็ร่วมมือกันกำจัดผู้ที่เกี่ยวข้องในสมการความขัดแย้งทั้งหมดของเรื่อง จนสามารถเอาคืน Devin ได้ สุดท้าย Michael จึงได้พูดสั่งลาว่า หลักการเกมของทุนนิยมมันคือการใช้เงินทำงาน โดยการจ้างคนนอก (outsource) โดยไม่ต้องลงมือเอง แล้วจ่ายเงิน แต่ Devin เล่นนอกเกม ไม่จ่าย เพราะขณะเดียวกัน Devin ก็ใช้อิทธิพลที่มีอยู่ เช่น เครือข่ายกลไกของรัฐ หรืออิทธิพลทางการเงิน ในการป้องกันตัวเองโดยการ blackmail คนที่ตัวเองใช้ทำงาน เพราะคิดว่าตนนั้นใหญ่พอที่จะควบคุมได้ แต่บางทีเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นได้ เช่น ผู้ที่ค้ำยันอำนาจให้อยู่นั้น ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว ก็คือ พวกเขาทั้งสาม ได้กำจัดคนเหล่านั้นไปหมดแล้ว ฟังดูมันก็อาจเหมือนหนังมาเฟีย ที่มักเกิดการฆ่าล้างตระกูลกันเมื่อผลประโยชน์ของเงินและอำนาจแบ่งกันไม่ลงตัว ดังนั้น GTA V จะว่าเสียดสีความเป็นสังคมทุนนิยม แล้วเป็นสังคมทุนนิยมก็คงจะไม่ใช่ เพียงแต่แสดงให้เห็นว่า ในด้านหนึ่งของระบบที่คิดว่าดี มีกติกาที่ใครคิดว่ายุติธรรม ก็มีด้านที่มืดมนเช่นเดียวกัน
[1] https://gta.fandom.com/wiki/State_of_North_Yankton ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว เกมในจักรวาล GTA จะไม่นิยมใช้ชื่อจริงนัก สาเหตุก็น่าจะเพราะต้องการล้อเลียนเป็นหลัก เช่น เมือง New York City ก็จะถูกเรียกว่า Liberty City ในเกม GTA III และ GTA IV หรือ Vice City ที่ถูกใช้ชื่อเรียกแทน Miami, Florida และในเกม GTA V ที่เรากำลังจะพูดถึง ก็ได้มีการเรียกชื่อเมือง Los Angeles ว่า Los Santos และได้มีการเปลี่ยนชื่อสถานที่สำคัญอย่าง Hollywood เป็น Vinewood ซึ่ง Vine นั้นก็มาจากชื่อถนนที่ตัดกับถนน Hollywood นั่นเอง
[2] มีงานที่เป็นแนวประชดประชัดเสียดสีความคิดแบบ Woke ที่มาในรูปแบบของหนังสือ How-to อันเป็นที่นิยมของศตวรรษที่ 21 ดู McGrath T. (2019). Woke: A Guide to Social Justice. London, UK: CONSTABLE
[3] https://thehill.com/changing-america/respect/equality/550301-college-soccer-player-says-her-coach-kicked-her-off-team
[4] https://www.thefocus.news/movies/disney-movies-cancelled/
[5] https://www.abc.net.au/news/2020-07-24/nfl-washington-redskins-rename-as-washington-football-team/12488000#:~:text=NFL’s%20Redskins%20renamed%20as%20Washington%20Football%20Team%20for%202020%20season%20%2D%20ABC%20News
[6] Nietszche, F. (1989). BEYOND GOOD and EVIL: Prelude to a Philosophy of the Future (W. Kaufmann trans.). New York, USA: Vintage Books. (Original work published 1886), 25-27.
[1] นักวิชาการ, สำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย, สถาบันพระปกเกล้า