Articles

Bpart: ปรัชญาของความโปร่งใส ความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี และโอกาสของไทยในประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม

ณัชชาภัทร อมรกุล
ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย
27 มิถุนายน 2568

จากยุโรปสู่บทเรียนประชาธิปไตยผ่านเทคโนโลยี

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีเพื่อประชาธิปไตยกลายเป็นพื้นที่ที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในยุโรปที่รัฐบาลท้องถิ่นเริ่มหันมาใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน หนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือ Bpart จากประเทศเบลเยียม ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลของรัฐได้ง่ายขึ้น และสร้างพื้นที่สำหรับการเสนอความคิดเห็นที่มีคุณภาพ

ปรัชญาที่เริ่มจาก “ข้อมูล”

แก่นของแพลตฟอร์ม Bpart คือแนวคิดที่ว่า “การมีส่วนร่วมที่แท้จริงต้องเริ่มจากการทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลอย่างเข้าใจง่าย” ดังที่ Bert Hendrickx ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Bpart กล่าวไว้ว่า “บันไดขั้นแรกของการมีส่วนร่วมคือข้อมูล” หากไม่มีข้อมูลที่เข้าถึงได้ ประชาชนจะไม่สามารถตั้งคำถาม ตัดสินใจ หรือมีส่วนร่วมกับนโยบายสาธารณะได้อย่างมีความหมาย

ปรัชญานี้สะท้อนผ่านโครงการต่าง ๆ ที่ Bpart เข้าไปมีบทบาท เช่น โครงการ Je Gemeente Telt ซึ่งเปิดเผยงบประมาณของเมืองต่าง ๆ ในแคว้นแฟลนเดอร์สในรูปแบบภาพและภาษาที่เข้าใจง่าย ช่วยให้พลเมืองที่ไม่มีพื้นฐานด้านการเงินสามารถดูได้ว่าเงินภาษีของตนถูกใช้ไปกับเรื่องใดบ้าง ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐาน บริการสาธารณะ หรือค่าใช้จ่ายทั่วไปที่มักถูกจัดหมวดหมู่ไว้กว้างเกินไป

จากงบประมาณแบบมีส่วนร่วม สู่การเรียนรู้ของพลเมือง

แพลตฟอร์ม Bpart ยังถูกนำไปใช้ในกระบวนการจัดทำงบประมาณแบบมีส่วนร่วมในเมืองแอนต์เวิร์ป ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนเสนอและโหวตโครงการสาธารณะมูลค่ากว่า 1.4 ล้านยูโรต่อปี และในบางเมืองก็มีการนำเกมงบประมาณเข้ามาใช้เพื่อให้ประชาชนเรียนรู้ค่าใช้จ่ายของภาครัฐ เช่น การปลูกต้นไม้หนึ่งต้นที่ดูเหมือนจะมีต้นทุนเพียงไม่กี่ยูโร แต่เมื่อรวมค่าขุดถนน แรงงาน และการบำรุงรักษาแล้วกลับมีต้นทุนสูงถึง 1,500 ยูโรต่อต้นไม้หนึ่งต้น

แนวคิดนี้ไม่เพียงทำให้ประชาชนเข้าใจภาระทางงบประมาณของรัฐมากขึ้น แต่ยังช่วยให้เกิด วัฒนธรรมของการเรียนรู้ร่วม และการมีส่วนร่วมโดยใช้ข้อมูลเป็นฐาน

ความท้าทายที่มากกว่าเทคโนโลยี

แม้แพลตฟอร์ม Bpart จะได้รับความชื่นชมจากภาคประชาชนและองค์กรสื่อ แต่ก็ต้องเผชิญกับข้อจำกัดสำคัญ เช่น การขาดแรงจูงใจจากรัฐบาลท้องถิ่นที่มองว่าการเปิดเผยข้อมูลเป็นเพียงข้อบังคับทางกฎหมาย ไม่ใช่ภารกิจเชิงคุณค่า

ขณะเดียวกัน ประชาชนจำนวนไม่น้อยก็ยังไม่เห็นว่าการเข้าไปดูข้อมูลทางการคลังของรัฐเป็นสิ่งจำเป็น จึงทำให้การใช้งานมักเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ไม่ใช่แบบต่อเนื่อง Hendrickx มองว่า โจทย์สำคัญไม่ใช่แค่การเปิดเผยข้อมูล แต่ต้องรวมถึง การสื่อสารที่เข้าถึงง่าย กระตุ้นความสนใจ และเปลี่ยนวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมในระยะยาว

โอกาสของไทยในบทเรียนสากล

ในบริบทของประเทศไทย หลายหน่วยงานของรัฐเริ่มมีการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะในลักษณะ Open Data เช่น ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้าง ข้อมูลงบประมาณแผ่นดิน หรือรายงานผลการดำเนินงานประจำปี แต่ข้อมูลเหล่านี้ยังมักอยู่ในรูปแบบที่เข้าถึงยาก และไม่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานทั่วไป

การนำแนวคิดของ Bpart มาประยุกต์ใช้ในไทยจึงน่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับการแสดงข้อมูลงบประมาณท้องถิ่นให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย พร้อมเชื่อมโยงกับกระบวนการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ เช่น การจัดทำแผนพัฒนาท้องถิ่นหรือแผนยุทธศาสตร์จังหวัดที่กำลังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่

อีกทั้ง หากเชื่อมต่อกับการเรียนรู้ของพลเมืองในเรื่องการจัดการสาธารณะ เช่น การพัฒนาเกมงบประมาณ หรือแบบทดสอบความรู้ทางการคลัง ก็จะช่วยลดช่องว่างระหว่างรัฐกับประชาชนลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

จุดเปลี่ยนไม่ใช่เทคโนโลยี แต่คือ “วิธีคิด”

แม้การพัฒนาแพลตฟอร์มเช่น Bpart ต้องใช้ทรัพยากรและความร่วมมือระหว่างหลายภาคส่วน แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ “การเปลี่ยนวิธีคิด” ทั้งของรัฐที่ต้องมองว่าความโปร่งใสไม่ใช่ภาระ แต่คือเครื่องมือสร้างความไว้วางใจ และของประชาชนที่ต้องเรียนรู้ว่า การมีส่วนร่วมไม่ใช่สิทธิพิเศษ แต่คือความรับผิดชอบร่วมกันในการร่วมกำหนดอนาคตของส่วนรวม

ในโลกที่ความเร็วของข้อมูลกำลังกลืนความลึกของความเข้าใจ Bpart ย้ำเตือนเราว่า ประชาธิปไตยไม่สามารถพัฒนาได้ หากปราศจากการให้ข้อมูลที่ “ดีพอ” และ “ง่ายพอ” สำหรับประชาชนทุกคน

เอกสารอ้างอิง

Wetherall-Grujić, G. (2024, July 25). “It all starts with making sure people are informed”: An interview with Bert Hendrickx, CEO of Bpart. Democracy Technologies. https://democracy-technologies.org/participation/it-all-starts-with-making-sure-people-are-informed/

Leave a comment